อากาศที่เราหายใจ……

                อากาศที่เราหายใจเข้าไปคือปราการด่านแรกของการมีสุขภาพที่ดี แต่อากาศในปัจจุบันมักเต็มไปด้วยมลภาวะที่เป็นพิษ ที่น่าสนใจไปกว่านั้นจากการวิจัยค้นพบว่าอากาศภายในห้องจะมีมลภาวะมากกว่าอากาศภายนอกห้องถึง 2.5 เท่า ซึ่งบางครั้งบางสถานการณ์อาจจะมีมากกว่าถึง 100 เท่า  อันมีสาเหตุมาจากอุปกรณ์ตกแต่งภายในห้อง จากร่างกายมนุษย์ และการใช้ชีวิตประจำวัน

                นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยซึ่งชี้ให้เห็นว่าโดยเฉลี่ยแล้วผู้ใหญ่ทั่วไปจะใช้เวลาอยู่ในอาคารไม่น้อยกว่า 20 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับแม่บ้าน เด็กเล็ก และผู้สูงอายุอาจใช้เวลาภายในอาคารนานมากกว่านั้นเสียอีก ดังนั้นการคำนึงถึงความสำคัญของการกรองอากาศภายในอาคารจึงถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง  นอกจากนั้นปัญหาอีกประการหนึ่งก็คือ บ้านของครอบครัวสมัยใหม่มักเป็นแบบอาคารแบบปิด ซึ่งมีการบุฉนวนป้องกันความร้อน และความเย็นที่ดีขึ้น รวมไปถึงระบบปรับอากาศที่พักอาศัย แต่ภายในบ้านกลับไม่มีการถ่ายเทอากาศที่ดีเท่าที่ควร  ทำให้อากาศเสียก็จะถูกกักเก็บไว้ในบ้าน วันแล้ววันเล่าเปรียบเสมือนอากาศมือสองที่ถูกสูดหายใจเข้าไปแล้วปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาวนเวียนอยู่ในห้องหรืออาคารนั้นๆ

                พอลองมาดูในส่วนของสำนักงาน หรือที่ทำงานก็คงมีสภาพมลภาวะทางอากาศไม่ต่างไปจากที่อยู่อาศัยเท่าใดนัก อากาศที่มีอยู่ก็จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในการทำงานของบรรดาพนักงานในอาคารที่ต้องทำงานภายใต้สภาวะมลพิษทางอากาศของอาคารระบบปิดลองคิดดูสิครับว่า พนักงานคนทำงานเช่นเราๆ ท่านๆ จะต้องอยู่ในสภาพมลพิษทางอาการในห้องสำนักงานที่มีอากาศจำกัดแถมยังมีตัวก่อกำเนิดมลภาวะ ไม่ว่าจะเป็น มลภาวะทางอากาศที่เกิดจากเครื่องใช้สำนักงาน อย่าง เครื่องถ่ายเอกสาร หรือ มละภาวะอื่น ๆ เช่น มลภาวะที่ติดมากับคน มลภาวะที่เกิดจากฝุ่น และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายที่มองไม่เห็น

คำถาม? แล้วเราจะต้องทนต่อสภาพมลภาวะทางอากาศเช่นนี้ไปนานอีกเท่าไร??

เราทำอะไรได้

                จะดีกว่าไหม?  ถ้าอากาศในอาคารสถานที่ทำงานเป็นอากาศที่ดี สะอาด บริสุทธิ์ ไร้ฝุ่น ไร้มลภาวะ มีปริมาณออกซิเจนที่พอเหมาะต่อการดำรงชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการอากาศดังกล่าวเห็นทีว่าเครื่องฟอกอากาศ คงต้องเข้ามามีบทบาทในการฟอกอากาศภายในอาคารสำนักงานให้ดีขึ้นเพื่อสุขภาวะและสุขภาพที่ดีของคนทำงานเช่นเรากันนะครับ