ทำไมต้องใช้เครื่องฟอกอากาศ??

ทำไมต้องใช้เครื่องฟอกอากาศ??

   เพราะ “เครื่องฟอกอากาศ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สิ้นเปลือง แต่เป็นเครื่องช่วยป้องกันอันตรายจากสิ่งแปลกปลอมที่ปะปนในอากาศ”

   ทำไมต้องใช้เครื่องฟอกอากาศ??  คำถามนี้เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนคงถามตัวเองว่า เอ๊ะ! ทำไมต้องใช้ เครื่องฟอกอากาศ ละ มันช่วยอะไร สำคัญยังไง แล้วต้องใช้มันเมื่อไร จำเป็นแค่ไหน

   คงไม่มีใครตอบได้ว่าทำไม?  แต่ต้องมาดูกันว่าเหตุผลจริง ๆ ที่ทำให้ต้องใช้ เครื่องฟอกอากาศ คืออะไรมากกว่า...............

    จากสภาวะอากาศในปัจจุบัน  มีสิ่งแปลกปลอมที่ปะปนอยู่ในอากาศอย่างมากมาย แล้วสิ่งที่ปะปนเหล่านั้นคุณมองเห็นไหมว่ามีอะไรบ้าง คุณคงแยกออกมาไม่ได้หรอกว่าสิ่งที่ปะปนในอากาศมีอะไร แล้วสิ่งเหล่านั้นส่งผลกระทบกับร่างกายของคุณอย่างไร ทีนี้เราต้องมาดูกันทีละอย่างเลยว่าในอากาศมีสิ่งแปลกปลอมอะไรที่เรียกว่า อันตราย

  1. ฝุ่นละออง ภัยร้ายใกล้ตัว ถือเป็นปัญหาหลักในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ ซึ่งฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็ก ไม่เกิน 10 ไมครอน ถือว่าอันตรายหากได้รับในปริมาณมาก หรือ แม้นว่าปริมาณน้อยแต่มีการสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน เพราะมันจะทำให้เกินการอักเสบ และ การระคายเคืองเรื้อรัง ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ
  2. สารตะกั่ว ที่ปะปนในอากาศ  เกิดจากอาคารที่มีการทาสีที่มีสารตะกั่วผสมอยู่เนื่องจากอาคารเก่ามักจะมีสะเก็ดสีหลุดออกมา หรือ การลอกสีทีไม่ถูกวิธีก็จะสามารถทำให้สารตะกั่วกระจายกลายเป็นฝุ่นปะปนอยู่ในอากาศ หากร่างกายมีการรับเอาสารตะกั่วเข้าสู่ร่างกายผลกระทบก็คือ สารตะกั่วจะทำลายระบบประสาทและส่งผลต่อกระบวนการรับรู้ และ การพัฒนาสติปัญญา
  3. ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นก๊าซที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีรส แล้วจะรู้ได้อย่างไรละว่า ณ ตอนนี้มีก๊าซนี้ปะปนอยู่ในอากาศ ก๊าซนี้จะเกิดจากการเผาไหม้ไม่เฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่การที่ใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ในการเดินทาง การเผาไหม้เหล่านั้นทำให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ออกสู่อากาศ ซึ่งถ้ามีการได้รับในปริมาณที่มาก หรือ มีการสะสมในร่างกายเป็นระยะเวลานาน ก็จะทำให้เลือดขาดออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และหัวใจทำงานหนักมาขึ้น ส่งผลกะทบรุนแรงต่อร่างกายเป็นอันตรายถึงชีวิต
  4. ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซตัวนี้เกิดจากการเผาไหม้เช่นกัน แต่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงที่มีธาตุกำมะถันผสมอยู่ จึงทำให้ก๊าซตัวนี้มีกลิ่นฉุน ส่วนมากพบได้จากเชื้อเพลิงในโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า หากมีการรับก๊าซชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง และเยื่อบุตา และหากได้รับในระยะเวลานานจะทำให้เป็นโรคจมูกและ หลอดลมอักเสบเรื้อรัง
  5. ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน ก๊าซตัวนี้ก็เป็นก๊าซอีกประเภทหนึ่งที่เกิดจากการเผาไหม้ แต่เป็นการเผาไหม้แบบสมบูรณ์ เช่น การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงในรถยนต์ หรือ โรงงานอุตสาหกรรม ปิโตรเคมี  แล้วปล่อยก๊าซสู่อากาศ หากมีการรับเข้าสู่ร่างกาย ก็จะส่งต่อระบบการมองเห็น หรือผู้ที่มีอาการหอบหืด หรือ มีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอยู่แล้วก็จะส่งผลทำให้อาการหนักขึ้น หรือ ส่งผลต่อชีวิต
  6. ก๊าซโอโซน เป็นก๊าซที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น แสงจากดวงอาทิตย์ หรือฟ้าผ่า ซึ่งก๊าซโอโซนก็มีทั้งประโยชน์และก็โทษพร้อม ๆ กัน หากมีการรับโอโซนในปริมาณที่มากหรือมีการสะสมเป็นเวลานาน ก็จะส่งผลกระทบทำให้เกิดอาการระคายเคือง  หรือ เยื่อบุทางเดินระบบหายใจมีปัญหา นอกจากนั้นแล้วยังเป็นอันตรายต่อปอดอีกด้วย
  7. สารอินทรีย์ระเหยง่าย VOCs เกิดจากการระเหยจากผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็น ทินเนอร์ สารทำความสะอาด น้ำมันหล่อลื่น สารเคลือบเฟอร์นิเจอร์ สีทาบ้าน น้ำยาฟอกสี หรือควันบุหรี่ การรับสารเหล่านี้ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก เพราะสารเหล่านี้อยู่ครัวเรือน ผลกระทบของสาร VOCs ทำให้เกิดการอักเสบและระคายเคืองเรื้อรัง และหากมีการสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน ก็จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้

     นอกจากก๊าซ หรือ สารต่าง ๆ ที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นแล้วนั้น ในอากาศ ยังมีสิ่งปะปนอื่น ๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น เชื้อโรค ไวรัส หรือแบคทีเรีย ที่ปะปนอยู่ในอากาศ แล้วสามารถเข้าสู่ร่างกายของคุณง่าย ๆ เพียงแค่หายใจ   ซึ่งคุณเองก็เลือกที่จะมองข้ามอันตรายเหล่านั้น ดังนั้นนี้คือเหตุผลว่าทำไม?? ต้องใช้ เครื่องฟอกอากาศ เพราะ เครื่องฟอกอากาศ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สิ้นเปลือง แต่เป็นเครื่องช่วยป้องกันอันตรายจากสิ่งแปลกปลอมที่ปะปนในอากาศ ทำให้คุณได้รับการป้องกันอันตรายร้ายแรงใกล้ตัวที่บางทีก็ถูกมองข้าม